เคยเป็นไหม? ลืมตามาเจอแสงอาทิตย์ แสงไฟ หรือแม้แต่แสงจากหน้าจอต่าง ๆ ทีไรเป็นต้องหยีตาเพราะรู้สึกแสบตาทุกที จนทำให้รู้สึกว่าไม่กล้าเงยหน้า ไม่กล้าเจอแสงจ้าเลย แต่รู้หรือไม่ว่า อาการแบบนี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึง “อาการตาแพ้แสง” ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
วันนี้เราจึงอยากจะพาไปรู้จักกับอาการตาแพ้แสงกันให้มากขึ้น ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร พร้อมวิธีดูแลป้องกันว่าสามารถใช้วิธีไหนได้บ้าง
อาการตาแพ้แสงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยอาการตาแพ้แสง หรือ Photophobia นั้นเป็นภาวะที่ดวงตามีความไวต่อแสงมาก และไม่สามารถทนต่อแสงได้ โดยภาวะนี้จะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตา เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา และต้องหรี่ตาหรือหลับตาเสมอเมื่อเจอกับแสง อีกทั้งยังทำให้ตาแฉะ และมีน้ำตามากกว่าปกติด้วย
นอกจากนี้ อาการตาแพ้แสง ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากหลอดไฟ โคมไฟ หรือแสงจากจอคอมพิวเตอร์ รวมถึงจากมือถือด้วย ซึ่งอาการสามารถเกิดได้ทั้งแบบชั่วคราวและแบบเรื้อรัง โดยความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไป ผู้ที่มีเม็ดสีในตาน้อย จะทนต่อแสงได้น้อยกว่าผู้ที่มีเม็ดสีในตามาก ซึ่งก็หมายความว่าผู้ที่ดวงตาสีอ่อนอย่างสีฟ้า สีเขียว หรือน้ำตาลอ่อน ก็มักจะมีอาการตาแพ้แสงที่รุนแรงกว่าผู้ที่มีดวงตาสีเข้มนั่นเอง
ได้รู้แล้วว่าภาวะตาแพ้แสงคืออะไร แต่หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า ทำไมอยู่ ๆ เราถึงเกิดภาวะตาแพ้แสงขึ้นมา โดยสาเหตุสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น
• สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม และการใช้สายตา
พฤติกรรมการใช้สายตาและการใช้ชีวิตประจำวัน มีผลต่อการเกิดภาวะตาแพ้แสงได้ โดยพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของการแพ้แสงมีดังนี้
1. การใช้สายตาในการเพ่งอ่านหนังสือ หรือมองสิ่งต่าง ๆ เป็นเวลานาน
2. การใช้สายตาในการจ้องมองหน้าจอต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ โทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
3. การใส่คอนแทคเลนส์ที่มีขนาด หรือรูปทรงไม่เหมาะสมกับตา จนทำให้เกิดการระคายเคือง
4. อาการตาอักเสบ ตาติดเชื้อจากสิ่งสกปรก
5. การเกิดอุบัติเหตุทำให้ฝุ่นเข้าตา หรือมีแผลที่กระจกตา
6. การเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะบางตัว เช่น ยาแก้อักเสบ ยาคุมกำเนิด หรือยาทาสิว
7. การใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
• สาเหตุทางพันธุกรรม และโรคบางชนิด
นอกจากพฤติกรรมการใช้สายตาและการดูแลดวงตาแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม รวมถึงโรคบางประเภทที่ทำให้เกิดภาวะตาแพ้แสงได้ ดังนี้
1. หากพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวมีอาการตาแพ้แสง ก็จะทำให้คุณมีโอกาสที่จะเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน
2. การมีรูม่านตาขนาดใหญ่กว่าปกติก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาแพ้แสงได้
3. หากป่วยเป็นโรคไมเกรน จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการตาแพ้แสงได้มากขึ้น
เพื่อป้องกันภาวะตาแพ้แสงหรือตาไวต่อแสง การตรวจวัดสายตาและสุขภาพตาเป็นประจำเพื่อหาทางรักษาก็จะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด โดยจะเป็นการตรวจปริมาณน้ำตาว่าตาแห้งเกินไปไหม รวมถึงตรวจหาการอักเสบ และความผิดปกติต่าง ๆ ของดวงตาร่วมด้วย
เพื่อปกป้องสายตาไม่ให้เกิดภาวะแพ้แสงควรเลี่ยงการใช้สายตาที่จะทำร้ายดวงตา เช่น การเพ่งอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ในที่มืด รวมถึงการเพ่งสายตาขณะอยู่กลางแจ้งตอนที่แสงแดดจ้าเป็นเวลานาน ๆ
เพื่อดูแล และบำรุงสายตาให้แข็งแรง ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตา โดยเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซีเป็นหลัก
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดูแลสายตาเพื่อป้องกันอาการตาแพ้แสงได้ก็คือ การเลือกใส่แว่นกันแดด หรือเลนส์แว่นที่ช่วยกรองแสงสีฟ้า เพราะแสงสีฟ้าที่อยู่ทั้งในแสงแดด แสงไฟ และหน้าจอต่าง ๆ เป็นแสงที่สามารถทะลุผ่านกระจกตาและเลนส์แก้วตา ที่สามารถเข้าไปได้ลึกถึงจอประสาทตาจึงอาจส่งผลเสียต่อดวงตาได้
ปกป้องดวงตาจากแสงแดดด้วยแว่นแบบ Customized ที่ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงยูวีและแดดจ้า อีกทั้งยังเหมาะสมกับแต่ละปัญหาสายตาของแต่ละบุคคล สามารถมาปรึกษากับเราได้ที่ Occura Vision เราให้บริการตัดแว่นอย่างใส่ใจโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจวัดสายตาด้วยเทคโนโลยีทันสมัยครบวงจรตามมาตรฐานสากล สนใจตัดแว่นสายตาสั้น-ยาว หรือแว่นสายตากันแดด ราคาคุ้มค่า คุณภาพดี สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-611-6823 หรือทาง LINE @occura
ข้อมูลอ้างอิง:
ลูกค้าเก่า วัย …
This website uses cookies.
