ประสบการณ์ตัดแว่น เลนส์สายตาชั้นเดียว

OCCURA รีวิว – เลนส์เสื่อมสภาพไม่ใช่แค่มองไม่ชัด แต่ทำร้ายสายตาด้วย

review-zeiss-smartlife-superb-dior-black-suit-o-651-343

“อย่าปล่อยไว้นานหลังจากเลนส์เริ่มเสื่อมสภาพ นอกจากจะมีผลเรื่องความคมชัดแล้วการป้องกันแสงที่เป็นอันตรายต่างๆก็เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลงด้วย”

จากการซักประวัติในช่วงปีที่ผ่านมานี้มีการใช้งานสายตาในระยะคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือค่อนข้างเยอะ เฉลี่ยวันละ 6-8 ชั่วโมง เริ่มสังเกตุว่ามองไม่ค่อยชัดและไม่แน่ใจว่าไม่ชัดเพราะเลนส์หรือค่าสายตาเปลี่ยน พอมาตรวจสอบแว่นดูเห็นได้ชัดเจนว่าเลนส์เดิมเริ่มลอกและเป็นรอยค่อนข้างมาก หลังจากที่ใช้งานมาได้ 2 ปี วันนี้จึงมาตรวจวัดสายตาแบบละเอียดและรับคำแนะนำเรื่องเลนส์ให้เหมาะกับค่าสายตาและกรอบแว่นที่ยังได้ลุคแฟชั่นทันสมัย

การตรวจวัดสายตา

OLD PRESCRIPTION

· R: – 7.75-3.25 X 180 ระดับการมองเห็น 20/60+2

· L: – 8.00-3.00 x 167 ระดับการมองเห็น 20/40-2

– ระดับการมองเห็นสองตา 20/40-2

– ใช้งานมา 2 ปี

NEW PRESCRIPTION

· R: – 8.00-4.50 x 5 ระดับการมองเห็น 20/20-2

· L: – 8.00-4.00 x 175 ระดับการมองเห็น 20/20-2

 

สรุปผลการวินิจฉัย

จากแว่นเดิมที่มองไม่ค่อยชัดมาจากค่าสายตาที่เปลี่ยนเพิ่มขึ้นและเลนส์เริ่มเสื่อมสภาพลงทำให้การมองเห็นยิ่งแย่ หลังจากการตรวจเช็คค่าสายตาแบบละเอียดแล้วได้มีการปรับค่าสายตาใหม่ทั้งสองข้างทำให้การมองเห็นดีขึ้นหลายระดับอย่างเห็นได้ชัดเลย

ด้านขวา เป็นข้างที่ปรับเยอะกว่าจากระดับการมองเห็น 20/60+2 ดีขึ้นจนได้ระดับการมองเห็นที่ 20/20-2 หลังจ่ายค่าสายตา – 8.00-4.50 x 5

ด้านซ้าย จากระดับการมองเห็น 20/40-2 ดีขึ้นจนได้ระดับการมองเห็น 20/20-2 หลังจากจ่ายค่าสายตา – 8.00-4.00 x 175

ในเคสที่ค่าสายตาสั้นและเอียงเยอะมาก การใช้เลนส์ที่มีโครงสร้าง Multigressive ขึ้นไปนั้นจะเป็นตัวช่วยเรื่องการปรับตัวได้อย่างดี

ส่วนอายุการใช้งานของเลนส์เฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นจะค่อยๆเสื่อมสภาพลง ทำให้การป้องกันแสงอันตรายต่างๆที่เข้ามาป้องกันได้น้อยลง เป็นรอยขีดข่วน รอยนิ้วมือง่ายมากยิ่งขึ้น หรือมีปัจจัยอื่นๆเช่นการใช้กรดแรงๆล้างแว่น หรือเจอความร้อนบ่อย ก็อาจทำให้เลนส์เสื่อมประสิทธิภาพได้เร็วขึ้นกว่าปกติ

 

เลนส์ที่เลือกใช้ LENS

Zeiss SmartLife Single Vision Superb 1.74 Blue protect

เลนส์โครงสร้าง multigressive ที่มีการนำค่าสายตา ค่า PD และเทคโนโลยี Binocular balance เป็น 3 ค่าหลักที่มาคำนวนช่วยในการผลิตเลนส์ ทำให้ได้ทั้งความชัด ความสมจริงของภาพที่มองและมีมุมมองภาพบิดเบือนด้านข้างน้อยลง โดยใช้การขัดเลนส์แบบ Freeform เป็นการขัดเลนส์แบบละเอียดจุดต่อจุด และแม่นยำ เหมาะกับปัญหาค่าสายตาเยอะ ซับซ้อน และไม่เท่ากัน ที่ต่างกันเพื่อการปรับตัวที่ง่าย ได้เลือกเลนส์ INDEX 1.74 เป็นระดับความบางที่บางที่สุด ให้น้ำหนักเลนส์เบาลงและสวยงามรับกับกรอบแว่นที่เลือก นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันแสง UVและแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือ

 

กรอบที่เลือกใช้ FRAMES

Dior : Black SuitO S2U

หนึ่งในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2021 รวมนวัตกรรม เทคโนโลยี และงานฝีมือ มีกระบวนการผลิตแว่นตาที่ประณีตกว่า 250 ขั้นตอน กรอบแว่นรุ่นนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการนำลายกระสไตล์วินเทจมาผสมเข้ากับกรอบสีเงินให้ดูทันสมัยมากขึ้น หน้าแว่นมีขนาด 50 cm. เป็นขนาดกำลังดีช่วยให้เลนส์มีความสวยงามมากขึ้นไม่ดูหนาจนเกินไป

( อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบแว่น Dior )

( เลือกดูกรอบแว่นสายตา Dior เพิ่มเติม )

( อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกแว่นให้เข้ากับใบหน้า )

 


 

ติดต่อปรึกษาตรวจวัดสายตากับโอคูระ | มิติใหม่ของร้านแว่นตา พร้อมบริการแบบส่วนตัว T : 02-645-0192 l M : 081-611-6823 l Line : @occura l FB / IG : occuravision

100/74 อาคารว่องวานิช บี ชั้น 23 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320

Related Posts