ในยุคดิจิทัลที่เราต้องจ้องมองหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ตลอดเวลา ทำให้ปัญหาสายตากลายเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ ยิ่งเมื่อต้องปรับสายตามาอ่านหนังสือหรือเอกสารในระยะใกล้ ๆ ก็อาจทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อก่อนได้ แว่นอ่านหนังสือจึงเป็นทางออกที่หลายคนนึกถึงเพื่อช่วยให้การอ่านมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทว่า แว่นอ่านหนังสือจำเป็นหรือไม่ มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร รวมถึงเมื่อไรที่เราควรพิจารณาใช้แว่นตาประเภทนี้ บทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัย พร้อมทั้งอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างแว่นอ่านหนังสือและแว่นโปรเกรสซีฟ เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
แว่นอ่านหนังสือ คืออะไร ?
แว่นอ่านหนังสือคือแว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การมองเห็นในระยะใกล้ชัดเจนยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือหรือการทำงานที่ต้องการมองเห็นรายละเอียด เช่น การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือการอ่านเอกสาร อย่างไรก็ตาม แว่นประเภทนี้อาจไม่สะดวกเมื่อต้องการเปลี่ยนการมองเห็นเป็นระยะไกลหรือระยะกลาง
คนที่ควรใช้แว่นอ่านหนังสือ
1. ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัย (Presbyopia)
เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 40 ปีขึ้นไป สายตาของคนเราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ เนื่องจากเลนส์แก้วตาภายในเกิดการแข็งตัวและยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้การโฟกัสในระยะใกล้และไกลไม่ชัดเจน ซึ่งภาวะนี้เรียกว่า Presbyopia หรือภาวะสายตายาวตามวัย
2. ผู้ที่ต้องทำงานระยะใกล้เป็นเวลานาน
คนที่ทำงานในลักษณะที่ต้องเพ่งมองระยะใกล้เป็นประจำ เช่น นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องใช้สายตาอ่านข้อมูล ทำเอกสาร หรือทำงานศิลปะเป็นเวลานาน อาจเกิดอาการปวดตา ปวดหัว และสายตาล้าได้ง่าย
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจต้องใช้แว่นตาอ่านหนังสือ
1. มองเห็นไม่ชัดเมื่ออ่านในระยะใกล้
เมื่อเริ่มสังเกตว่าต้องยืดแขนหรือถือหนังสือให้ห่างขึ้นเพื่อมองเห็นตัวอักษรชัดเจน นั่นอาจเป็นสัญญาณแรกของภาวะสายตายาวตามวัย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น ในกรณีนี้ แว่นตาอ่านหนังสืออาจเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะจะเพิ่มกำลังขยายให้แก่ดวงตา ทำให้สามารถมองเห็นวัตถุในระยะใกล้ได้ชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องพยายามมากเกินไป
2. มองเห็นตัวอักษรขนาดเล็กในที่แสงน้อย
หากพบว่าตนเองต้องการแสงสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่ออ่านตัวหนังสือได้อย่างถนัดตา อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณจำเป็นต้องใช้แว่นอ่านหนังสือ เพราะแว่นจะช่วยเพิ่มความคมชัดให้แก่การมองเห็น ทำให้อ่านหนังสือได้สบายตามากขึ้นแม้ในสภาพแสงไม่เอื้ออำนวย
3. ปวดตาเมื่อทำงานในระยะใกล้
เมื่อทำงานที่ต้องใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานาน เช่น อ่านหนังสือ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือเย็บผ้า แล้วเริ่มรู้สึกปวดตาหรือล้าตา นั่นอาจเป็นเพราะเลนส์ตาไม่สามารถปรับโฟกัสได้อย่างเหมาะสมอีกต่อไป การใช้แว่นอ่านหนังสือจึงสามารถช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อตา ทำให้คุณทำงานได้นานขึ้น
4. ปวดหัวเมื่อพยายามอ่านหนังสือ
หากเริ่มมีอาการปวดหัวหลังจากอ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สายตาในระยะใกล้ อาจเป็นสัญญาณว่าดวงตากำลังทำงานหนักเกินไปเพื่อปรับโฟกัส การใช้แว่นอ่านหนังสือจึงอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดของสายตาได้
แว่นอ่านหนังสือจำเป็นไหม ? ข้อดีและข้อจำกัดที่ควรรู้
ข้อดี
- มองเห็นชัดเจนในระยะใกล้ : แว่นตาอ่านหนังสือช่วยให้มองเห็นได้ชัดในพื้นที่กว้าง เช่น หน้าหนังสือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อ่านหรือทำงานได้สะดวกสบายโดยไม่ต้องเพ่งหรือยืดแขน
- ภาพบิดเบือนด้านข้างน้อย : เลนส์ของแว่นอ่านหนังสือมีการบิดเบือนของภาพด้านข้างน้อย ผู้ใช้จึงมองเห็นได้ชัดแม้ในบริเวณขอบเลนส์ ไม่ต้องขยับศีรษะบ่อยเพื่อหาจุด เซ็นเตอร์ที่มองเห็นชัดที่สุด
- ปรับตัวง่าย : แว่นอ่านหนังสือมีกำลังขยายคงที่สำหรับการมองระยะใกล้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องปรับตัวมาก สามารถใช้งานได้ทันทีและรู้สึกสบายตาเร็วกว่าการใช้แว่นหลายชั้นหรือแว่นโปรเกรสซีฟ
ข้อจำกัด
- มองได้เฉพาะระยะใกล้ : แว่นอ่านหนังสือใช้ได้เฉพาะการมองระยะใกล้ ไม่สามารถปรับโฟกัสสำหรับการมองระยะกลางหรือไกลได้
- ต้องถอดใส่บ่อย : เนื่องจากใช้ได้เฉพาะระยะใกล้ ผู้ใช้จึงต้องถอดแว่นเมื่อต้องการมองในระยะอื่น ทำให้ไม่สะดวกในสถานการณ์ที่ต้องสลับระหว่างการอ่านและการมองไกลบ่อย ๆ เช่น ในการประชุมหรือการทำงานที่ต้องดูเอกสารสลับกับการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
ความแตกต่างระหว่างแว่นอ่านหนังสือและแว่นตาโปรเกรสซีฟ
แว่นตาอ่านหนังสือและแว่นตาโปรเกรสซีฟตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล แตกต่างกัน ดังนี้
- แว่นอ่านหนังสือ : อย่างที่ได้กล่าวไปว่า แว่นชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อการมองเห็นระยะใกล้ เหมาะกับการอ่านหนังสือหรืองานที่ต้องการเห็นรายละเอียดชัดเจน และไม่สะดวกเมื่อต้องเปลี่ยนไปมองระยะไกลหรือระยะกลาง เนื่องจากต้องถอดแว่นออก
- แว่นตาโปรเกรสซีฟ : แว่นชนิดนี้มีเลนส์พิเศษที่ช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะในแว่นเดียว โดยจะค่อย ๆ เปลี่ยนความสามารถในการมองเห็นจากระยะใกล้ไปยังระยะกลางและระยะไกล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการมองเห็นที่หลากหลายโดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจต้องปรับตัวในช่วงแรก เนื่องจากสมองต้องเรียนรู้การใช้เลนส์ส่วนต่าง ๆ และอาจต้องปรับท่าทางการมอง เช่น เงยหน้าขึ้นหรือก้มลงเล็กน้อย เพื่อหาจุดที่มองเห็นได้ชัดที่สุดในแต่ละระยะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านตัดแว่นสายตาที่ครบครันทั้งคุณภาพเลนส์และดีไซน์สวยงาม สามารถแวะมาได้ที่โอคูระ (Occura) ร้านแว่นตาที่มีบริการให้คำปรึกษาและตรวจวัดค่าสายตาโดยคุณหมอนักทัศนมาตรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมมีกรอบแว่นให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกรอบแว่นสายตาทั่วไป หรือกรอบแว่นสายตาคลิปออน เหมาะสมกับทุกการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณ
หากสนใจหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อโอคูระได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-611-6823 หรือทาง LINE @occura
ข้อมูลอ้างอิง
- Do I Need Reading Glasses?. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567. จาก https://www.webmd.com/eye-health/need_reading_glasses.