ใช่คุณหรือเปล่า ที่ไม่ค่อยแน่ใจกับอาการที่แสดงออก บางทีก็ใช่ แต่บางทีก็ยังไม่ชัวร์ เรากำลังชวนคุณตั้งคำถามกับอาการของ “สายตาที่หลอกกันไม่ได้” บางวันก็มองเห็นไม่ค่อยคมชัด โฟกัสภาพลำบาก ไม่ชัวร์ว่านี่คืออาการ “ตาล้า” หรือ “ค่าสายตาเปลี่ยน”
ถ้าอยากรู้ว่าสายตากำลังบอกอะไร ต้องเริ่มจากทำความเข้าใจลักษณะอาการที่เด่นชัดแท้ของ อาการ “ตาล้า” และ “ค่าสายตาเปลี่ยน” กันก่อน
ตาล้า
อาการเด่นชัด : ปวดตา หรือบางครั้งปวดกระบอกตา หนักเข้าอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย เวลามองภาพจะเบลอๆ เห็นไม่ชัด แต่อาการจะเป็นชั่วคราว เดี๋ยวชัด เดี๋ยวเบลอสลับกัน มีบางที่แสบตา ตาแห้ง มีน้ำตาไหล และดวงตาไวต่อแสงจ้ามากกว่าปกติ และอาการทั้งหมดจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อดวงตาได้รับการพักผ่อนเพียงพอ
สาเหตุ : ใช้สายตาจดจ่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน หรือใช้สายตาในที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้รูม่านตาเกิดการหดเกร็งและเพ่งอย่างหนัก หรือบางเคสอาจมีปัญหาสายตาอยู่โดยที่ไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อใช้สายตาเพ่งเพื่อโฟกัส อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชั่วคราวได้
ค่าสายตาเปลี่ยน
อาการเด่นชัด : มองเห็นภาพเบลอและอาจมีเงาซ้อนๆ กันเวลามองตัวเลขตัวอักษรร่วมด้วย โดยเฉพาะเวลากลางคืนการมองเห็นจะแย่ลง เห็นแสงไฟจากดวงไฟในลักษณะฟุ้งแตกเป็นเส้นหรือขีดยาวๆ อาจมีอาการแพ้แสงเพิ่มขึ้น ต้องหรี่หรือเพ่งตาถึงจะมองเห็นชัด อาการที่ว่านี้คงอยู่ถาวร ต่อให้พักสายตาจนพอเพียงอาการก็ไม่หายไป
อยากรู้มั้ย… สายตาสั้น กับ สายตาเอียง มองเห็นต่างกันอย่างไร
สาเหตุ : ปกติแล้ว ค่าสายตาจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อลักษณะทางกายภาพมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ความโค้งของกระจกตาเปลี่ยน ความยาวของกระบอกตาเปลี่ยน หรืออายุมากขึ้น
คุณอายุ 40+ หรือเปล่า หากเริ่มมองใกล้ไม่ชัด อาจมีปัญหาสายตายาวตามวัย…เช็คเลย
นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของอาการ “ตาล้า” และ “ค่าสายตาเปลี่ยน” เพื่อให้คุณลองสังเกตตัวเองว่าเข้าข่ายอาการไหนมากกว่ากัน แต่มีความเป็นไปได้เช่นกันที่อาการค่าสายตาเปลี่ยนมีส่วนทำให้เกิดอาการตาล้าได้
ดีที่สุดคือ เมื่อมีอาการผิดปกติกับดวงตา เริ่มมองเห็นไม่ชัด โฟกัสไม่ได้ ควรไปพบนักทัศนมาตรเพื่อตรวจวัดสายตา วินิจฉัยถึงสาเหตุที่แท้จริงและหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ข้อควรทราบ
- ถึงแม้ว่าแว่นสายตาจะช่วยแก้ไขอาการตาล้าที่มีสาเหตุมาจากค่าสายตาที่เปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ก็ไม่อาจแก้ไขอาการตาล้าที่มีสาเหตุมาจากการจ้องมองระยะใกล้เป็นเวลานานๆได้ ดังนั้นหลังจากที่ได้รับแว่นสายตามาใช้งานและเห็นคมชัดดีแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องพักผ่อนสายตาขณะที่ทำงานเป็นระยะๆ ด้วยการละสายตาจากหน้าจอคอมจอโทรศัพท์ ไปมองวิวทิวทัศน์ในระยะไกลๆแบบผ่อนคลายประมาณ1-2นาทีในทุกๆ30นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลายจากการหดเกร็งตลอดเวลาบ้าง
- กรณีที่มีภาวะตาล้าอย่างรุนแรงหรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาหดเกร็งค้าง ค่าสายตาที่ได้จากการตรวจวัดจะเพี้ยนตามไปด้วย ข้อแนะนำก่อนเข้ารับการตรวจวัดสายตาจึงเป็นการนอนหลับพักผ่อนในคืนก่อนตรวจให้เพียงพอครบ8ชั่วโมงจึงจะดีที่สุด
ติดต่อเพื่อปรึกษาปัญหาสายตาและตรวจวัดค่าสายตาได้ที่ Occura
ติดต่อปรึกษาตรวจวัดสายตากับโอคูระ | มิติใหม่ของร้านแว่นตา พร้อมบริการแบบส่วนตัว T : 02-645-0192 l M : 081-611-6823 l Line : @occura l FB / IG : occuravision
100/74 อาคารว่องวานิช บี ชั้น 23 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
