ใครที่เคยจ้องมองอะไรนาน ๆ หรือเวลาทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเกิดอาการแสบตา เคืองตาเหมือนมีเศษผงอยู่ในตา รวมถึงการที่อยู่ ๆ น้ำตาไหล ตาแพ้แสง มองอะไรก็ชัดเบลอสลับกัน หรือเวลาอยู่ในห้องแอร์อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำ อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ‘ภาวะตาแห้ง’
อาการตาแห้งเป็นอย่างไร ?
ภาวะตาแห้งมักแสดงอาการที่หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- รู้สึกเคืองตา แสบตา เหมือนมีเศษผงอยู่ในดวงตา
- น้ำตาไหลออกมาเองอย่างผิดปกติ
- ตาแพ้แสง มองเห็นภาพไม่ชัดหรือภาพเบลอสลับกับชัด
- อาการจะเด่นชัดขึ้นเมื่ออยู่ในห้องแอร์หรือบริเวณที่มีลมแรง
สำหรับบางคนที่ประสบปัญหาตาแห้ง อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่หากปล่อยให้เกิดซ้ำบ่อยครั้งโดยไม่ดูแล อาจกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานในระยะยาวได้
สาเหตุของภาวะตาแห้ง
ตาแห้งเกิดจากอะไร ? คำอธิบายคือภาวะตาแห้งเกิดจากความไม่สมดุลของชั้นน้ำตาที่เคลือบผิวดวงตา ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
- การใช้สายตาอย่างหนัก
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ส่งผลให้ความถี่ในการกะพริบตาลดลง น้ำตาที่ช่วยหล่อเลี้ยงดวงตาจึงระเหยไปเร็วกว่าปกติ - การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งหรือมีลมแรง
การอยู่ในห้องแอร์ ห้องที่มีเครื่องฟอกอากาศ หรือสถานที่ที่มีลมแรงทำให้น้ำตาระเหยออกจากดวงตาได้ง่าย - การใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไป
คอนแทคเลนส์อาจดูดซับความชื้นจากดวงตา ทำให้ดวงตาขาดความชุ่มชื้น - อายุและฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
คนวัยกลางคนและผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือนมักมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากฮอร์โมนมีผลต่อการผลิตน้ำตา - ผลข้างเคียงจากยา
ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิต หรือยาคุมกำเนิด อาจลดการผลิตน้ำตาได้
ดูแลดวงตาอย่างไร เมื่อภาวะตาแห้งเกิดจากไลฟ์สไตล์ ?
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเลี่ยงการใช้สายตาในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือรู้วิธีดูแลและป้องกันภาวะตาแห้งที่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- พักสายตาเป็นระยะ
หากต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ควรพักสายตาทุก ๆ 30 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกล ๆ สัก 1-5 นาที - กะพริบตาบ่อยขึ้น
การกะพริบตาอย่างน้อย 10 ครั้งต่อนาที จะช่วยลดการระเหยของน้ำตาและทำให้ดวงตาชุ่มชื้น - ปรับตำแหน่งหน้าจอ
วางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15 องศา เพื่อลดแรงลมและแสงที่เข้าสู่ดวงตาโดยตรง - ปกป้องดวงตาจากลมและฝุ่น
สวมแว่นกันลมหรือแว่นตาที่ป้องกันฝุ่นเมื่อต้องออกไปข้างนอก - ใช้น้ำตาเทียม
อีกหนึ่งวิธีแก้ตาแห้งเมื่อรู้สึกแสบตา แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมชนิดรายวันที่ไม่มีสารกันเสียเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น - ปรับแสงหน้าจอ
ใช้โหมด Night Mode หรือปรับความสว่างของหน้าจอเพื่อลดแสงสีฟ้าที่กระทบดวงตา
ตาแห้งต้องตัดแว่นไหม ?
หลายคนที่มีภาวะตาแห้งอาจสงสัยว่าตาแห้งต้องตัดแว่นไหม หรือการตัดแว่นจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่ คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของคุณ” เพราะการตัดแว่นไม่ได้เป็นการรักษาภาวะตาแห้งโดยตรง แต่ในบางกรณี การใช้แว่นตาอาจช่วยลดอาการที่เกี่ยวข้องกับตาแห้งได้ เช่น
- แว่นตากันลมและฝุ่น
แว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันลมและฝุ่น เช่น แว่นตาที่มีกรอบปิดรอบด้าน (Wraparound Glasses) สามารถช่วยลดการระเหยของน้ำตาและป้องกันสิ่งระคายเคืองเข้าสู่ดวงตา - แว่นสำหรับใช้งานหน้าจอ
หากคุณมีภาวะตาแห้งและต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน แว่นตากันแสงสีฟ้า (Blue Light Glasses) อาจช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและลดการกระตุ้นให้เกิดตาแห้งได้ - แว่นตาปรับค่าสายตา
ในกรณีที่ภาวะตาแห้งเกิดร่วมกับปัญหาค่าสายตา เช่น สายตาสั้น ยาว หรือเอียง การตัดแว่นที่ปรับค่าสายตาอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดความเครียดของดวงตาขณะใช้งาน และป้องกันอาการตาแห้งรุนแรงขึ้นจากการใช้งานสายตาเกินความจำเป็น
ร้านแว่นตาโอคูระพร้อมให้บริการตัดแว่นที่สามารถช่วยรับมือกับอาการตาแห้ง
อย่าปล่อยให้ภาวะตาแห้งเป็นอาการที่รบกวนชีวิตประจำวันจนกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่สามารถมาตัดเลนส์แว่นที่เหมาะสมกับภาวะตาแห้งได้ที่ร้านแว่นตาโอคูระ โดยมีนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมช่างแว่นตาที่มีทักษะและประสบการณ์กว่า 10 ปี เพื่อตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด พร้อมช่วยให้คุณตัดเลนส์สายตาที่เหมาะสมกับค่าสายตาที่สุด
ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-645-0192 หรือทาง LINE @occura
ติดต่อเพื่อปรึกษาปัญหาสายตาและตรวจวัดค่าสายตาได้ที่ Occura
Reference if any:
1 https://www.knoptic.com/สายตาสั้นมาก-เลือกใช้เล/
2 https://www.chapter-optical.com/article/182/สายตาสั้นเกินพัน-ต้องเลือกกรอบแบบไหนดี
3 Topics suggestion ‘สัญญาณเตือนตาแห้ง’
Link: https://www.bangkokhospital.com/content/dry-eyes